วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558



5 อย่างที่ทำแล้วจะช่วยให้ พุงยุบ !

การมีสุขภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องอยากและไม่ง่าย หลายๆคนก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะคน หนุ่มสาว ที่อยากจะมี ร่างกายที่ฟิต แน่นนอนครับว่าเมื่อเวลามีคนมาทักว่าที่ท้องว่า ห่วงยาง มันช่างเป็นคำที่ทิ่มแทงเข้าในทรวงซะเหลือเกิน โดยเฉพาะสาวๆที่อยากจะมีหน้าท้องที่แบนราบ บางที่ก็อยากจะหายามาลดน้ำหนัก โดยวิธีลัด ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ถ้าต้องกลับมาโยโย่ เอาอย่างนี้เรามาละลายไขมันหน้าท้องกันดีกว่า
  1. การดีท็อกซ์ลำไส้ 
             การทำดีท็อกซ์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ลองมองหาใกล้ ๆ ตัว เช่น โยเกิร์ต ควรรับประทานโยเกิร์ตบ่อยๆ จะช่วยทำความสะอาดล้างไขมันที่เกาะตามผนังลำใส้ จะช่วยทำให้ร่างการดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
 2. การควบคุมอาหาร
             เริ่มจากการงดการรับประทานอาหารประเภท ทอด หรือ มีน้ำมันจำนวนที่เยอะ หรือมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่มากๆ ควรที่จะหันมารับประทานอาหารที่มีผักเยอะ เช่นสลัดผัก ผลไม้ และควรนอกจากนั้นควรลดปริมาณ มื้ออาหารลงจาก 3-4 มื้อ ให้ลดลงให้เหลือ 2 มื้อและลดปริมาณข้าวหรือประเภทแป้งให้น้อยลงและไม่กินขนมขบเคี้ยว บ่อยๆ
 3. การออกกำลังกาย
            การออกกำลังกายที่สมำเสมอจะช่วยให้ไม่กลับมามีหน้าท้องอีก โดยการออกกำลังกายโดยการวิ่ง การชิทอัพ เริ่มจาก 20 ครั้ง แล้วเพิ่มจำนวน ขึ้นเรื่อยๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วแต่ความถนัดของผู้ออกกำลังกาย แค่นี้ก็สามารถเผาผลาญไขมันได้แล้ว
 4.  การพักผ่อนให้เพียงพอ
           การพักผ่อนมนที่นี้ก็คือการ นอน สิ่งสัมคัญที่สุดคือการนอนตั้แต่หัวค่ำ คือ การนอนก่อน 4ทุ่ม การนอนควรนอนไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างการพักผ่อนได้เต็มที่และอีกทั้งร่างกายจะสร้าง ฮอโมนที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานออกมาและจะจัดการกับไขมันส่วนเกินได้
 5.  การฝึกลมหายใขเข้าออก
          การหายใจมีส่วนมากในการไหลเวียนของโลหิตและระบบเผาผลาญในร่างกาย และรู้สึกอิ่มในการรับประทานอาหารในมื้อนั้นๆ การกำหนดลมหายใจที่ถูกต้อง จะต้องหายใจอย่างช้าๆและลึกๆ เป็นจังหวะแค่นี้ก็สามารถเผาผลาญไขมั้นส่วนเกินได้แล้วละ

ได้สาระการลดหน้าท้องแล้วแถมยังสุขภาพดีอย่างนี้รับรองหน้าท้องแบนราบแน่นอน



ที่มาภาพ google.com

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีเครียร์ที่ซับหมึก canon MG6270

เครื่องขึ้น error e500

1 กดปิดเครือง

2 ถอดปลั๊ก แล้วกดปุ่ม power ค้าง แล้วเสียบปลั๊ก

3 ยังไม่ปล่อยปุ่มpower กดปุ่ม สำผัสปุ่ม ok จะมีไฟขึนแสดงแถบเมนู

4 จากกนั้น กด ปุ่ม  stop 6 ครั้ง 1 แล้วปล่อยมือทั้งสองจากปุ่ม power ด้วย

 5 จากนั้นต่อสาย usb แล้ว ดาวโหลด servicetool v3400
http://search.4shared.com/q/1/Service+tool+v3400?locale=th

6 ใส่กระดาษ 2 แผ่น

7จากนั้นกดปุ่ม set ที่หัวข้อ clear ink counter เครื่องจะปริ้นกระดาษมา1แผ่น



วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วิธีเครียร์ที่ซับหมึกเต็ม canon MG4170


1.ปิดเครื่องพริ้นเตอร์ รอจนไฟที่ปุ่ม Power ดับ
2. กดปุ่ม Power พร้อมกันกับปุ่ม Stop/ Reset
3. ปล่อยปุ่มStop/ Reset และกดไป 6 ครั้ง (ปุ่ม Power ยังไม่ปล่อยนะครับ)
4. จากนั้นเมื่อปุ่มครั้งที่ 6กดไปแล้ว ค่อยปล่อยปุ่ม Power จากนั้นรอจนกว่า ไฟพาวเวอร์จะหยุดนิ่ง
เตรียมกระดาษให้พร้อม 1 แผ่น
เปิดโปรแกรมที่ดาวน์โหลด (http://www.4shared.com/rar/P_6FOF0b/service_tool_v3400_printer_can.htm?locale=thใช้ canon ) service tool 3400  
5. คลิก clear Ink Counter เปลี่ยนเป็น All คลิก 1 ครั้ง > คลิก OK
    จะปรากฎหน้าต่าง a Function is Finish คลิก OK

เสร็จขั้นตอน กดปุ่ม Power เพื่อปิด และเปิดเครื่องอีกครั้ง ใช้งานได้ตามปกติ

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557


       

       ในตอนเช้าๆหลังจากที่เราตื่นและลุกจากที่นอน  นอกจกจากการทำกิจวัตรประจำวัน บางคนก็อาจกำลังเตรียมตัวออกไปทำงาน บ้างก็นั้งดูข่าว บ้างก็เข้าครัวทำกับข้าว  แต่จะมีซักกี่คนละครับ จะตื่นเช้ามาเพื่อออกกำลังกาย
แต่คุณรู้ไหมครับว่า... การออกกำลังกายในตอนเช้านั้น และยิ่งก่อนทานอาหารเช้าด้วยนั้น จะช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าการออกกำลังกายในช่วงอื่น
     ผลงานการวิจัยนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงใน วารสาร British Journal โดยพบว่า ผู้ชายที่ออกกำลังกายในตอนเช้า ก่อนทานอาหารเช้า สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้มากกว่าการออกกำลังกายในช่วงอื่นๆถึง 33%
ไม่แค่การเผาผลาญพลังงานได้เยอะเพียงเท่านั้น การออกกำลังกายในยามเช้า ยังช่วยลดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และยังส่งผลให้คุณสมองปรอดโปร่งมากขึ้นและได้รับออกซิเจนมากขึ้น และทำให้วันทำงานของคุณดูสดชื่นอีกด้วย
Dr. Jason Gill ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ กล่าวว่า การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ล้วนได้ประโยชน์ทั้งนั้น เพียงแค่การศึกษาและวิจัยในเรื่องนี้บ่งชี้เป็นพิเศษในเรื่องของการออกกำลังกายในยามเช้า ว่า สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้มากกว่าการออกกำลังกายในช่วงอื่นๆเท่านั้นเอง
   หลังจากที่มีการวิจัยออกมาอย่างนี้พวกเราชาวทำงานหลังติดเก้าอี้พุงเริ่มย้อยก็คงต้องเสียสละเวลาตอนเช้าๆหันมาออกกำลังกายกันแล้วละ แต่ผมคิดว่าถ้าเรามีเวลาว่างช่วงไหนก็ควรที่จะออกกำลังกายกันบ้างจะดีที่สุด...




ที่มา sanook.com
ข้อมูลจาก MH AUS
loidoo เรียบเรียง
ภาพ google.com

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง (Musculotendinous strain) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการปวดหลัง (Back pain)
พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวเป็นต้นไป แต่อาการปวดหลัง ปวดเอว ซึ่งเป็นปัญหากับหลายๆคนโดยเฉพาะเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน ถ้าปวดหลัง ปวดเอวจากกล้ามเนื้อ จะเป็นภาวะที่ไม่อันตรายร้ายแรงแต่ก่อให้เกิดความเจ็บ ปวด และอาจเป็นอาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังได้โดยอาการปวดจะแสดงในลักษณะต่าง เช่น บางรายอาจปวดเฉพาะบริเวณหลังหรือกระเบนเหน็บบางรายอาจปวดหลังและร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างและมีอาการชาร่วมด้วยจนเดินไม่ได้ก็มีบางรายอาจมีอาการปวดเอว แล้วก็มีอาการตึงมาทางหน้าท้อง


สาเหตุของอาการปวดหลัง ปวดเอว แบ่งได้เป็น 3 สาเหตุหลัก

1.ปวดหลังจากไตอักเสบ หรืออาจมีนิ่วที่ไต มักจะมีไข้ ปวดเอว ปัสสาวะอาจมีแสบ ขัด ขุ่น
ถ้าเคาะเบาๆ ที่เอวด้านที่ปวดจะเจ็บมากจนสะดุ้ง 
2.ปวดหลังจากกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังที่เอวเคลื่อนกดทับเส้น
ประสาท
มักพบในคนเลยวัยกลางคนแล้ว คนที่ต้องแบกของหนักเสมอ หรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่บริเวณหลังบางรายเท้าจะอ่อนแรง ยกปลายเท้าไม่ขึ้น อาการอาจค่อยเป็นค่อยไปบางรายก้มยกของหนักแล้วหมอนรองกระดูกก็เคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาท ทำให้ปวดกะทันหันก็มี
3.ปวดหลัง ปวดเอว จากกล้ามเนื้อหลัง   มักเกิดจากการทำงานก้มๆ เงยๆ ยกของหนัก นั่ง ยืน นอน หรือยกของในท่าที่ไม่ถูกต้อง ใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป นั่งเล่นเกมส์หรือทำงานนานเกินไป หรือนอนที่นอนนุ่มเกินไปทำให้เกิดแรงกดตรงกล้ามเนื้อสันหลังส่วนล่าง ซึ่งจะมีอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลังจึงเกิดอาการปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง   คนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็อาจมีอาการปวดหลังได้และที่สำคัญเมื่ออายุมากขึ้น เส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อหลัง เอว หน้าท้อง จะมีอาการหดเกร็งหรือเกิดอาการตึง เรียกว่า "กษัยเส้น"

จะทราบได้อย่างไรว่าปวดหลัง ปวดเอว จากสาเหตุใด ให้ทดลองดังนี้

1 ลองให้นอนหงายบนพื้นแข็ง ๆชันเข่าขึ้นบน ท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อหลังคลายตัว
ถ้าอาการดีขึ้น ก็น่าจะปวดหลัง ปวดเอวจากกล้ามเนื้อ

2 ลองใช้กำปั้นทุบเบาๆ ที่บั้นเอวข้างที่ปวด ถ้าปวดจนสะดุ้ง ร่วมกับมีไข้ ปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่นก็มีโอกาสเป็นไตอักเสบ ควรรีบพบแพทย์ทันทีถ้าทุบแล้วรู้สึกว่าสบาย อาการดีขึ้น ก็น่าจะปวดหลังจากกล้ามเนื้อ

3 ลองนอนหงาย เหยียดขาทั้ง 2 ข้างออก แล้วให้คนอื่นยกขาข้างที่ปวดเอวขึ้นมาตรงๆ เร็วๆโดยที่ขาอีกข้างยังเหยียดราบอยู่ ถ้าเกิดอาการปวดเอวด้านที่ยกขาขึ้น และปวดร้าวแปล๊บไปที่ปลายเท้าก็น่าจะเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ควรรีบพบแพทย์ทันที


วิธีแก้อาการปวดหลัง ปวดเอว   ที่ปวดจากกล้ามเนื้อหลัง ต้องดูว่าอิริยาบถเป็นอย่างไร

  ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากการนอน ที่นอนควรใช้แบบแน่นยุบตัวน้อยที่สุด ไม่ควรใช้ฟูก ฟองน้ำหรือเตียงสปริงเพราะหลังจะจมอยู่ในแอ่น ทำให้กระดูกสันหลังแอ่น จนเกิดอาการปวดหลังได้ท่านอนที่ผิด คือการนอนคว่ำจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่นมากที่สุด โดยเฉพาะระดับเอว ทำให้ปวดหลังได้การนอนหงายทำให้หลังแอ่นได้เล็กน้อย ทำให้ปวดหลังได้ ควรใช้หมอนข้างใบใหญ่ หนุนใต้โคนขาจะช่วยให้กระดูกสันหลังแบนราบ และควรมีหมอนรองรับบริเวณคอไว้การนอนตะแคง เป็นท่านอนที่ดี ควรนอนให้ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอ ตะโพกและเข่ากอดหมอนข้างไว้ หลังให้โก่งเล็กน้อย การนั่ง ควรนั่งให้ชิดขอบในของเก้าอี้โดยหลังไม่โก่ง เก้าอี้ที่นั่งต้องรองรับก้นและโคนขาได้ทั้งหมด ความสูงพอดีที่เท้าแตะพื้น การยืน ควรยืนพักขา 1 ข้าง คือ เข่าตึงข้างหนึ่ง หย่อนข้างหนึ่ง จึงจะไม่ทำให้หลังแอ่น การยกของ อย่าก้มลงยกของ การก้มตัวลงหยิบของในลักษณะเข่าเหยียดตรงเป็นท่าที่ทำให้ปวดหลังได้ เพราะกล้ามเนื้อหลังจะเป็นส่วนที่ออกแรง จึงอาจทำให้เกิดอาการอักเสบได้ ควรย่อเข่าลงนั่งกับพื้น ยกของให้ชิดตัว แล้วลุกด้วยกำลังขา
การนั่งขับรถ บางท่านต้องขับรถเป็นระยะเวลานาน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดเอวดังนั้นท่านั่งขับรถจะต้องนั่งให้ถูกวิธี และควรมีการพักโดยออกมายืนแล้วบิดขี้เกียจบ้าง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง




ที่มา http://www.brand-a.com
รูป www.google.com

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557



          เนื่องจากคนและสุนัขก็มีวิวัฒนาการบางอย่างใกล้เคียงคลับคล้ายคลับคลากัน ทำให้โรคบางประเภทนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในคนและในสุนัข เช่นเดียวกันค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับโรคลำไส้อักเสบในสุนัขนั่นเอง
          อาการโรคลำไส้อักเสบในสุนัข มีสาเหตุและวิธีรักษาอย่างไร
เพราะสุนัขก็มีลำไส้ในระบบทางเดินอาหาร เมื่อมีลำไส้ มีเม็ดเลือดขาว ก็ไม่ยากที่จะสามารถเกิดโรคลำไส้อักเสบได้ โดยโรคลำไส้อักเสบในสุนัขนี้นั้น ถูกจัดว่าเป็นโรคที่สำคัญของระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะสำคัญคือมีการอักเสบของลำไส้อาจจะเป็นเฉพาะบางส่วน เช่น เป็นแค่เพียงลำไส้เล็กบางส่วน เป็นแค่เพียงลำไส้ใหญ่ หรือเป็นทั้งหมดของลำไส้ก็ได้สุนัขที่มีอาการลำไส้อักเสบจะมีลักษณะสำคัญคือมีไข้ ไม่ยอมกินอาหาร ดูซึม ไม่วิ่งเล่นตามปกติ อาจมีการอาเจียน หรือท้องเสียให้เห็น และหากเป็นแบบรุนแรงก็อาจจะทำให้มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดไปในทั้งร่างกาย ทำให้เกิดระบบหัวใจทำงานล้มเหลว ถึงเสียชีวิตได้ คล้ายๆ การดำเนินโรคลำไส้อักเสบในคนค่ะ
         โดยโรคลำไส้อักเสบนี้มักจะเจอในสุนัขที่ยังอายุน้อยๆ ในช่วงราว 3-8 เดือน ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าระบบภูมิคุ้มกันของสุนัขในช่วงวัยนี้ยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ จึงส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายค่ะ และจากลักษณะทางพยาธิ ของการตรวจลำไส้ของสุนัขที่ตายจากภาวะลำไส้อักเสบ ก็มักจะพบลักษณะของเนื้อเยื่อที่บวมน้ำ และมีการเพิ่มขึ้นของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ ในเนื้อเยื่อ
แนวทางการรักษาสุนัขที่ป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบ ก็คล้ายๆ กับแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ โดยการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนให้เพียงพอ โดยหากว่าสุนัขที่ป่วยนั้นตรวจพบมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงก็อาจจะให้สารละลายแลคเตต รินเจอร์ (Lactate Ringerus Solotion) ทดแทน ทั้งภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ได้ค่อนข้างดีนอกจากนี้ก็อาจให้ยาระงับการอาเจียน และยาระงับอาการท้องเสีย ขึ้นกับว่าสุนัขที่ป่วยนั้นมีอาการอะไรเป็นหลัก ซึ่งโดยส่วนมากอาการก็จะสัมพันธ์ไปกับส่วนของลำไส้ที่เกิดโรค เช่น หากลำไส้อักเสบนั้นอยู่บริเวณของลำไส้ส่วนต้น ก็จะมีอาการเป็นอาเจียนเด่น แต่ถ้าหากไปอักเสบในลำไส้ส่วนปลายก็จะแสดงอาการของท้องร่วงท้องเดินค่ะ แต่การให้ยาระงับอาการพวกนี้ก็อาจจะต้องมีข้อพึงระวังไว้ในใจเพราะจะทำให้สารพิษและเชื้อโรคค้างอยู่ในลำไส้ได้แทนที่จะถูกขับออกไปกับการอาเจียนหรืออุจจาระนอกจากนี้หากคิดว่าภาวะลำไส้อักเสบนั้นเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacteria) ก็อาจจะเลือกให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งลดการเสียชีวิตได้อีกด้วย


ที่มาhttp://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.com/
รุป www.google.com

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557



        หลายคน หลายบ้านช่วงนี้ชีวิตเจอแต่อุปสรรค อยากได้อะไรมักไม่สมหวังอยู่ร่ำไป ผิดหวังบ่อย ๆ จนชักจะสงสัยว่าอาจมีพลังงานบางก็เป็นได้!..  ถ้าเป็นอย่างนี้จริงก็คงแอบหลอนกันน่าดูเลยนะคะ อย่างนั้นเอาเป็นว่าลองมาจัดฮวงจุ้ยบ้านเพื่อปัดรังควานปัญหาและอุปสรรคให้พ้นไปจากชีวิตดูสักตั้งดีกว่าเผื่อความโชคดีจะเข้ามาพร้อมกับความสำเร็จในชีวิตบ้าง

 1. เคลียร์ทางเข้าบ้าน

          ลองออกไปยืนอยู่ปากทางเข้าบ้านแล้วมองมาทางประตูบ้านของคุณดูนะคะ หากมองแทบไม่เห็นประตูทางเข้าบ้านเพราะมีต้นไม้บดบังอยู่ หรือตำแหน่งของโคมไฟ ตู้ไปรษณีย์ หรือสิ่งกีดขวางอะไรก็แล้วแต่บังประตูบ้านอยู่ ให้รีบจัดการเคลียร์สิ่งกีดขวางเหล่านี้ออกโดยด่วน เพราะแค่ประตูบ้านซึ่งถือเป็นด่านแรกที่พลังงานดีจะผ่านเข้ามา ก็ถูกบล็อกด้วยสิ่งกีดขวางที่ว่านี้แล้ว ที่สำคัญหากตำแหน่งตรงประตูบ้านไม่เปิดโล่ง ฮวงจุ้ยไม่ดีตรงนี้จะส่งผลกระทบให้คุณมีลูกยาก มีปัญหาเรื่องเงินทองอยู่เสมอ รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าในชีวิตก็หยุดชะงักไปดื้อ ๆ ด้วย

 2. เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ต้องวางให้ถูกที่

          สำรวจดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ของบ้านอย่างตู้เก็บของ ชั้นวางหนังสือ หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่มีขนาดสูงใหญ่เกือบจรดเพดานบ้านอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับหน้าต่าง ด้านหลังของบ้าน หรือตั้งตรงกับประตูหน้าบ้านอยู่หรือเปล่า เพราะตำแหน่งเหล่านี้ไม่ควรจะมีของชิ้นใหญ่บดบัง เนื่องจากเป็นมุมที่มีพลังงานดีวนเวียนอยู่พอสมควร ฉะนั้นหากมีสิ่งกีดขวาง พลังงานดีก็คงไม่ไหลเวียนอย่างแน่นอน

 3. อย่าปล่อยให้บ้านรก

          ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยนับว่าเป็นอุปสรรคชีวิตที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง ลองคิดดูสิคะว่าถ้าข้าวของภายในบ้านอยู่ไม่เป็นที่ เวลาจะหยิบอะไรมาใช้ก็คงหากันวุ่นเลย อีกทั้งพื้นที่ที่ไม่โล่งก็ก่อให้เกิดบรรยากาศที่อึมครึม ไม่สดใส เหล่าเชื้อโรคและความสกปรกทั้งหลายก็จะพากันมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับคุณแน่ ๆ ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความรกเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของคนในบ้านมากเท่าไร ดังนั้นพยายามจัดระเบียบบ้านให้เรียบร้อย พร้อมทั้งทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอด้วยดีกว่าเนอะ

 4. บดบังวิวไม่ดี

          ถ้าบ้านของคุณตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นวิวที่ไม่เจริญหูเจริญตา เช่น เมรุเผาศพ ต้นไม้ที่แห้งตาย เศษซากปรักหักพัง หรือแม้แต่บ้านของเพื่อนบ้านที่มีพฤติกรรมไม่น่าคบหา สิ่งเหล่านี้ก็เป็นแหล่งรวมของพลังงานด้านลบ ที่สามารถส่งผลกระทบร้าย ๆ มาถึงเราได้เช่นกัน ฉะนั้นอาจจะต้องตกแต่งภูมิทัศน์ใหม่ ให้สามารถบดบังวิวไม่น่ามองเหล่านั้นให้พ้นหูพ้นตาเราไปซะ



วิธีจัดฮวงจุ้ยบ้าน ปัดรังควานปัญหาและอุปสรรค

 5. เพิ่มกระโจมให้หัวเตียง

          กระโจมหัวเตียงเป็นส่วนที่ช่วยปกป้องคุณจากพลังงานไม่ดีทั้งหลาย โดยเฉพาะหากห้องนอนของคุณมีแสงลอดเข้ามายังหัวเตียง อยู่ในตำแหน่งที่เพดานเอียงทำมุม หรือมีตู้และเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในห้องนอนด้วย สิ่งเหล่านี้ก็นับเป็นปัญหาทางฮวงจุ้ยด้วยเหมือนกัน ดังนั้นหากย้ายออกหรือแก้ไขได้ให้รีบทำ และสำหรับเตียงที่ใต้เตียงโล่ง ให้ทำความสะอาดพื้นที่ใต้เตียงให้โล่งพร้อมทั้งปราศจากไรฝุ่นด้วยนะคะ

 6. แขวนลูกบอลคริสตัลชะลอความแรงของพลังงาน

          ตำแหน่งที่เรียกว่าลูกศรพิษ (Poison arrows) หรือทางผีผ่าน เช่น ประตูบ้านที่อยู่ในทางเดียวกันกับทางเข้าบ้านแบบตรงดิ่ง บันไดที่ตั้งตรงกับประตูบ้าน ประตูหน้าบ้านที่มองทะลุไปถึงประตูหลังบ้าน หรือการเผชิญหน้ากันระหว่างประตูห้องสองห้อง พื้นที่ตรงจุดนี้ก็เป็นจุดบอดใหญ่ ๆ ของฮวงจุ้ยเลยนะคะ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้เคล็ดให้แขวนลูกบอลคริสตัลเหนือประตูแต่ละบาน เพื่อช่วยชะลอความรุนแรงของพลังงานไม่ให้เชี่ยวกรากเกินไป

 7. ตัดแต่งต้นไม้ให้สวยงาม

          สำหรับบ้านที่มีต้นไม้เยอะ และต้นไม้ต้นใหญ่ก็บดบังทัศนียภาพของบ้านไปจนหมด แบบนี้ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแรงเลยค่ะ เพราะบ้านที่ถูกบดบังแสงสว่างจากธรรมชาติก็เหมือนหมดโอกาสได้รับพลังงานที่ดีไปด้วย ส่งผลให้คนในบ้านเซื่องซึม โอกาสและความก้าวหน้าต่าง ๆ ก็จะเข้ามาไม่ถึง อีกทั้งพอบ้านได้รับแสงสว่างไม่เต็มที่ ปัญหาเชื้อราและเชื้อโรคที่ชอบความชื้นก็จะตามมารังควานไม่หยุดหย่อน ดังนั้นจัดการตัดแต่งต้นไม้ทุกต้นให้เรียบร้อยสวยงาม ไม่ให้ชนหรือเกะกะตัวบ้านดีกว่า


อย่างไรก็ตามการจัดบ้านเป็นสิ่งที่ดีทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นสะอาดขึ่น แต่ก็อย่าลืมเป็นคนดีตั้งใจทำงานด้วยน้าาา...




ที่มา www.kapook.com
รูป www.google.com


Subscribe to RSS Feed Follow me on Twitter!